กินให้ดี ไม่มีท้องผูก

จริงอยู่ว่าท้องผูกไม่ถึงกับตาย แต่ทำให้รู้สึกไม่สุขสบายและส่งผลต่ออารมณ์และไลฟ์สไตล์ของชาวเรา

อาการท้องผูก (Constipation) สามารถเกิดขึ้นได้กับเพศและทุกวัย ข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การเกิดท้องผูกในคนไทยพบได้ 3 - 20% และพบเพิ่มขึ้นเป็น 20 - 25% ในผู้สูงอายุ จริงอยู่ว่า ท้องผูกเป็นเพียงอาการไม่ใช่โรค และท้องผูกไม่ได้เป็นสาเหตุให้ถึงกับเสียชีวิตโดยตรง แต่อาการที่เหมือนจะเล็กน้อยนี้ก็ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต

ท้องผูกสามารถป้องกันและจัดการได้ หากเรารู้วิธีการดูแลสุขภาพ ก่อนอื่นต้องรู้สาเหตุของท้องผูกในผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจัยข้อใหญ่ลำดับแรกคือการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารน้อย และดื่มน้ำน้อยกว่าวันละ 1.5 ลิตร เพราะการที่ร่างกายได้รับน้ำน้อยทำให้อุจจาระแข็งและถ่ายลำบาก บวกกับนิสัยการชอบกลั้นอุจจาระหรือไม่ได้ถ่ายอุจจาระทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังอาหารเช้า จึงมีการสะสมอุจจาระในลำไส้มากขึ้นและเกิดภาวะท้องผูกในที่สุด

แต่เมื่อเกิดภาวะท้องผูกแล้วก็ต้องดูแล ควรรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ประเภทผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลี เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย โดยเพิ่มเข้ามาในมื้อที่เคยรับประทานเป็นประจำ หรือรับประทานเป็นอาหารว่าง อย่างใดอย่างหนึ่งต่อ 1 มื้อ เช่น ส้มเขียวหวาน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม มะม่วงสุก แอปเปิ้ล อย่างละ 1 ผล /มะละกอสุก 6 - 7 ชิ้น/ เงาะ มังคุด อย่างละ 3 - 5 ผล หรือชมพู่ 4 ชิ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ การเลือกชนิดของผลไม้จะต้องพิจารณาแล้วว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ เช่น ไม่มีปัญหาโรคไต ไม่มีโรคระบบทางเดินอาหารเดิม ดังนั้น ก่อนจะเพิ่มอาหารเสริมเหล่านี้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสม

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อท้องผูก คือ ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ สุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม เป็นต้น

ส่วนการดื่มน้ำเปล่า แนะนำให้ดื่มหลังตื่นนอนทันที หรือก่อนอาหารเช้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จิบน้ำเป็นระยะหรือดื่มน้ำทันทีเมื่อรู้สึกกระหาย รวมทั้งดื่มน้ำ-เครื่องดื่มที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เช่น น้ำมะขามเติมน้ำผึ้งแท้วันละ 1 - 2 แก้ว นมเปรี้ยว น้ำว่านหางจระเข้ เครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนมีสรรพคุณในทางกระตุ้นการขับถ่ายอุจจาระได้คล่องช่วยแก้ไขปัญหาท้องผูกได้

จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะหากคัดสรรน้ำที่สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ได้อย่ามีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถช่วยให้การขับถ่ายทำได้อย่างเป็นปกติ

เครดิต : สสส.thaihealth.org

ที่มา : 40plus.posttoday

งานค้นคว้าวิจัยเชิงลึกของ ศ.ดร. อานนท์ บุณยะรัตเวช "น้ำดื่มส่งเสริมภูมิคุ้มกัน"

ผลการค้นคว้าเชิงลึกของ

ศ.ดร. อานนท์ บุณยะรัตเวช
ภาคีสมาชิก สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา มูลนิธิพัฒนายั่งยืน

ร่วมกับ ดร.มลนิภา ศิลาอาสน์
โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

             ลงตีพิมพ์ใน วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ 40 ฉบับที่ 1 ม.ค.-มี.ค. 2558 ในหัวข้อเรื่อง น้ำ : ความมหัศจรรย์จากจักรวาลสู่โมเลกุลและจากโมเลกุลสู่ชีวิตและสุขภาพ"

             กล่าวว่า น้ำเป็นพื้นฐานและการเกิดของสิ่งมีชีวิตในโลก ทำให้กำเนิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตปริมาณมากมายมหาศาล ที่มีสายพันธุ์นาๆชนิดรวมถึงมนุษย์ชาติ ปัจจุบันมนุษย์ยังขาดสุขอนามัยที่ดีพอจากระบบน้ำ ในขณะที่การบริหารน้ำในปัจจุบันนี้เพียรพยายามมุ่งเป้าที่จะให้ประชากรโลกเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด กลุ่มศึกษาวิจัยได้ตั้งข้อสงสัยหลังจากนั้นว่า น้ำสะอาดบริสุทธิ์ที่คนเราดื่มทุกวันคืออะไร ประโยชน์น้ำสะอาดบริสุทธิ์อยู่เหนือการหยั่งรู้ของคนจึงทำการการศึกษาค้นคว้าถึงระดับเซลล์และโมเลกุลของน้ำ

             การพิสูจน์ทางวิชาการใช้ น้ำกลั่น ,น้ำบริสุทธิ์สูง น้ำที่ใช้เพื่อการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ , น้ำดื่ม ACTIV120 เพื่อที่จะดูว่าน้ำไหนส่งผลต่อสุขภาพอนามัยร่างกายของคน และ เสริมการทำงานระดับเซลล์ในร่างกายได้ดี จากผลการวิจัยค้นพบว่า ภายใต้การกระตุ้นด้วย น้ำดื่ม ACTIV120 เจอการแบ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติดีกว่าน้ำบริสุทธิ์ชนิดอื่น และ เซลล์ภูมิคุ้มกันนี้มีชีวิตยืนยาวกว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวประเภทอื่นๆ เป็นน้ำดื่มที่ช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวในการสร้างภูมิต้านทานให้มีเวลานานขึ้นเป็นเกราะคุ้มกันต่อสิ่งแปลกปลอม เชื้อไวรัสต่างๆที่ไปสู่ร่างกาย ผลงานวิจัยกล่าวสรุปได้ว่าน้ำดื่ม ACTIV120 หมายถึงน้ำดื่มเสริมภูมิคุ้มกัน และเป็นอีกวิถีทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพอนามัยของคุณได้

                                          

คุณแม่แข็งแรงด้วย น้ำดื่ม ACTIV120

คุณแม่แข็งแรงด้วย น้ำดื่ม ACTIV120

ACTIV120

น้ำดื่ม ACTIV120 ช่วยดูแลคุณแม่ให้แข็งแรง

" คุณแม่ของดิฉันอายุ 92 ปี เป็นโรคชราและต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา แม้จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยที่พยายามพลิกตัวให้ท่านอยู่เสมอและเลือกใช้ที่นอนเฉพาะที่สามารถป้องกันการเกิดแผลกดทับก็ตามแต่ก็ยังเกิดปัญหาแผลกดทับขึ้นมาจนได้ ดิฉันใช้ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรหลายขนานทางตรงบริเวณแผลกดทับ อาการก็ยังไม่ค่อยดีขึ้น ดิฉันจึงทดลองให้คุณแม่ดื่ม น้ำดื่ม ACTIV120 แทนน้ำดื่มทั่วไปที่เคยให้ดื่มอยู่ หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนเศษ สังเกตว่าแผลกดทับของคุณแม่ทุเลาลง คือ มีขนาดของแผลเล็กลงและน้ำเหลืองที่ไหลออกมาน้อยลง ขอบแผลแดงขึ้นและแคบลงแสดงว่ามีเลือดมาเลี้ยงบริเวณแผลมากขึ้น นอกจากนั้นสังเกตว่าคุณแม่มีอาการตอบสนองโดยเฉพาะทางด้านสมองดีขึ้นด้วย ดิฉันเองก็ดื่มน้ำนี้อยู่เป็นประจำเช่นกัน ก็รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงดี เมื่อมันใจในน้ำดื่มนี้จึงได้แนะนำให้คนรอบข้างทดลองดื่ม โดยหวังว่าจะช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้ "

น้ำดื่ม ACTIV120 คือน้ำที่ผ่านการเข้าเครื่องแอคทิเวท ทำให้โครงสร้างโมเลกุลน้ำเกิดการเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เมื่อดื่มแล้วร่างกายสามารถดูดซึมน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในอวัยวะต่างๆของร่างกายได้รวดเร็วกว่าน้ำธรรมดา ส่งเสริมการนำพาสารอาหาร ออกซิเจน เข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ดี ขับอนุมูลอิสระ ของเสีย สารพิษออกจากเซลล์ได้รวดเร็วทันเวลา ทำให้ร่างกายสะอาดสดชื่น อีกทั้งช่วยส่งเสริมระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรงสามารถต่อสู่กับสิ่งแปลกปลอม หรือ เชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้นทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต้องป้องกันเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง

เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย จำเป็นดูแลรักษาเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง

            ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาจึงมีทั้งช่วงเวลาซึ่งร่างกายแข็งแรงหรือว่าอ่อนแอ ในเวลาที่ร่างกายจำเป็นต้องต่อต้านกับไวรัสอย่างติดต่อกันระบบภูมิคุ้มกันอาจจะอ่อนแอลงจึงเป็นเหตุให้คนเรารู้สึกเหนื่อยพร้อมทั้งเจ็บไข้ได้ป่วยจนไม่สามารถต่อกรกับการติดเชื้อไวรัสได้

ภูมิคุ้มกันในร่างกายมีขึ้นได้ยังไง ?

           "เซลล์เม็ดเลือดขาว" ภายในร่างกายมนุษย์ดำเนินการ "สร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว" เม็ดเลือขาวเป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันที่รอปกป้องร่างกายจากเชื้อก่อโรคกับสารปะปนหลายชนิด เม็ดเลือดขาวคือเซลล์ที่เห็นได้ทั่วไปข้างในร่างกายรวมถึงภายในโลหิตและภายในระบบน้ำเหลือง วิธีการทำหน้าที่คือ

โมโนไซต์ เป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ทำการจับกินสิ่งแปลกปลอมพร้อมทั้งย่อยสลายสิ่งแปลกปลอมให้เป็นโมเลกุลเล็กสำหรับส่งต่อไปสู่ลิมโฟไซต์ ลิมโฟไซต์ มีหน้าที่จดจำข้อมูลสิ่งแปลกปลอมเพื่อเอาไปสร้างขบวนการต้านสิ่งแปลกปลอมในระยะยาวหรือเรียกว่า "การสร้างภูมิคุ้มกัน" ครั้นเมื่อสิ่งแปลกปลอม ตัวอย่างเช่น ไวรัสเข้ามาสู่ร่างกายเซลล์โมโนไซท์จับกินพร้อมกับย่อยสลายสิ่งปลอมปน ส่งต่อข้อมูลไปสู่ เซลล์ลิมโฟไซต์ จะจดจำข้อมูลเพื่อที่จะสร้าง ระบบภูมิคุ้มกันเมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานก็ส่งผลลัพธ์ให้สุขภาพอนามัยแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันเพื่อทำการป้องกันพร้อมทั้งต่อต้านสิ่งปลอมปนในระยะยาว

          น้ำดื่ม ACTIV120 ช่วยส่งเสริม เสริมภูมิคุ้มกันในระดับเดียวกับเม็ดเลือดขาวได้เช่นใด ?

เพราะส่งผลกับการทำหน้าที่ในระดับเซลล์ข้างในร่างกาย น้ำดื่ม ACTIV120 เป็น น้ำดื่มเสริมภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมเม็ดเลือดขาวให้ปฏิบัติการอย่างมีศักยภาพ มีผลงานวิจัยเชิงลึกของ ศ.ดร. อานนท์ บุณยะรัตเวช ร่วมกับ ดร.มลนิภา ศิลาอาสน์ ได้ทำงานค้นคว้าและลงตีพิมพ์ใน วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ 40 ฉบับที่ 1 ม.ค.-มี.ค. 2558 ในหัวข้อ น้ำ : ความมหัศจรรย์จากจักรวาลสู่โมเลกุลและจากโมเลกุลสู่ชีวิตและสุขภาพ"

พบว่าการแบ่งเซลล์ของ ลิมโฟไซต์ (ภูมิคุ้มกัน) ภายใต้การกระตุ้นด้วย น้ำดื่ม ACTIV120 เพิ่มขึ้นอย่างเป็นจังหวะตามธรรมชาติ
        - น้ำดื่มนี้จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ภูมิต้านทาน เพิ่มจำนวนได้ด้วยตัวเอง อย่างสม่ำเสมอเป็นจังหวะตามธรรมชาติยิ่งกว่าน้ำดื่มบริสุทธิ์ชนิดอื่น
        - น้ำนี้สนับสนุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวหรือเซลล์ภูมิคุ้มกันให้มีอายุยืนยาวกว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดอื่นๆนานมากกว่า 100 วัน จึงทำให้มีเวลาปกป้องสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้บังเกิดโรคภัยได้ยาวนานขึ้น เป็นเหตุให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง

Scan Me please :)

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เห็ดทางการแพทย์

ที่มา : http://xn--r3ciuvl0esd.com/index.php?topic=139672.new#new

เสริมภูมิคุ้มกัน

เสริมภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวได้อย่างไร ?

เสริมภูมิคุ้มกัน

ร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติจะมีกลไกป้องกัน กำจัด หรือทำลายสิ่งแปลกปลอมอยู่ เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว จะคอยกำจัดเชื้อโรค ไวรัสหรือ สารพิษต่างๆ ต้องการให้ร่างกายแข็งแรง ต้องดูแลเซลล์เม็ดเลือดขาวให้แข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการทำงาน การดูแลระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ “เสริมภูมิคุ้มกันในระดับเดียวกับเม็ดเลือดขาว” มีหลายทางเลือก เช่น รับประทานเห็ดทางการแพทย์ ได้แก่ เห็ดไมตาเกะยามาบูชิตาเกะ มัตสึตาเกะ เป็นต้น เนื่องจากมีผลงานวิจัยพบว่า สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ เห็ดเหล่านี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของเซลล์เม็ดเลือดขาว ในการกำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งแปลกปลอมสาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย เห็ดทางการแพทย์มักหายากมีราคาสูงและการดึงสารสำคัญมาใช้ประโยชน์ต่อสุขภาพไม่สามารถใช้วิธีการปรุงอาหาร ผ่านความร้อนทั่วๆไปเพื่อดึงสารสำคัญออกมาได้ครบถ้วน จำเป็นต้องใช้วิทยาการสมัยใหม่ๆ เช่น การสกัดด้วยไอน้ำจะช่วยให้ได้รับปริมาณของสารออกฤทธิ์ที่มากกว่า

นอกจากเห็ดทางการแพทย์แล้ว เพื่อความสะดวกของผู้บริโภคปัจจุบันมีน้ำดื่มเสริมภูมิคุ้มกัน หรือ น้ำแอคทิเวท ACTIV120 มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าสามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาวในการเพิ่มจำนวนด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องเป็นจังหวะตามธรรมชาติมากกว่าน้ำบริสุทธิ์ชนิดอื่น ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันมีอายุยืนยาว ระยะเวลาการปกป้องต่อสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดโรคยาวนานขึ้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมต้องรับประทานอาหารให้ครบถ้วนเพียงพอตามหลักโภชนาการ ออกกำลังกายพอเหมาะสม่ำเสมอ นอนหลับเพียงพอ และดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ อย่ารอให้เจ็บป่วย สุขภาพจะดีได้ด้วยตัวคุณเอง

Scan Me please. 

อ่านคิวอาร์โค้ดเพื่อรับชมรายการในยูทูป

อะไรคือ เมโสเทอราปี (Mesotherapy)

               เมโสเทอราปี คือ วิธีการฉีดสารชนิดหนึ่ง ทางการแพทย์จะปริมาณน้อยๆลงสู่ผิว ซึ่งสารเหล่านี้เป็นทั้งสารสกัดจากธรรมชาติ สาร Homeopathy ตัวยาบางชนิด หรือวิตามิน ซึ่งจุดมุ่งหมายในการฉีดสารเหล่านี้เพื่อ กำจัดเซลลูไลท์บ้าง  ช่วยลดไขมัน แก้ปัญหาความแก่ชราของผิว รวมถึงปัญหาความหย่อนคล้อยบ้าง การฉีดเมโสนี้ ไม่ได้จำเพาะอยู่แค่การฉีดบนใบหน้าเท่านั้นสามารถฉีดกับผิวหนังตำแหน่งอื่นของร่างกายได้ เช่น หลังมือ หรือคอ 

            การจะดูแลผิวพรรณด้วยวิธีใดนั้นควรศึกษาให้ละเอียด และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้วิธีตามธรรมชาติ รัปทานอาหาร ผัก ผลไม้ที่เป็นประโยชน์ มีวิตามินต่างๆ ที่ส่งเสริมให้สุขภาพผิวแข็งแรง ออกกำลังกายให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงแสงแดด อากาศที่ร้อนจัด พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำที่ดี มีคุณภาพ ไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ อันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายมากถึง 70%